"น้ำใจในวันสงกรานต์" "ช่วยเหลือกันในวันที่น้ำท่วมถนน"

 


วันสงกรานต์นั้นเริ่มต้นด้วยแสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องผ่านต้นไม้ใหญ่และความรื่นเริงในหมู่บ้าน เด็กๆ วิ่งเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกัน เขาก็ยังคงอยู่ในชุดธรรมดา แต่ใจเต็มไปด้วยความตั้งใจที่จะร่วมสนุกกับเพื่อนๆ และฉลองเทศกาลปีใหม่ไทย



ในขณะที่เขากำลังเดินเล่นไปตามถนนที่เต็มไปด้วยฝูงชน น้ำเย็นๆ จากปืนฉีดน้ำทำให้เขาหัวเราะไปกับเพื่อนๆ ระหว่างที่เล่นน้ำอยู่ เขาก็เห็นรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง ขันที่น้องที่อยู่บนรถถืออยู่หลุดมือและตกลงไปกลางถนน



เขามองไปรอบๆ เห็นว่าทุกคนยังคงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครสนใจขันที่ตกอยู่ เขารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องถ้าจะปล่อยให้มันอยู่กลางถนน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าเจ้าของรถอยู่ที่ไหน แต่ความคิดแรกที่แวบเข้ามาคือ “ต้องเก็บมันให้ได้”



เขาเริ่มวิ่งข้ามถนนไปทันที โดยไม่คำนึงถึงอันตรายจากรถที่อาจจะขับมา เขามองซ้ายขวา และเห็นว่าถนนว่างอยู่ ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะเกิดอันตรายมากนัก เมื่อถึงขัน เขาหยิบมันขึ้นมาแล้ววิ่งกลับไปยังฟุตบาท ขณะเดียวกันรถกระบะก็ขยับไปพร้อมกับการเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนที่เห็นเหตุการณ์นั้น



หลังจากนั้น เขาตัดสินใจวิ่งไปส่งขันให้เจ้าของที่ยังจอดอยู่ในระยะทางไม่ไกลจากจุดที่เขาหยิบขันขึ้นมา เขาไม่อยากให้น้องหรือคนในรถต้องลงมาจากรถ เพราะมันอาจจะทำให้เกิดการจราจรติดขัดได้ เขาไม่ต้องการให้ใครต้องเสียเวลามากขึ้น หรือเกิดอุบัติเหตุจากความไม่สะดวก



เมื่อถึงรถกระบะ เขายื่นขันให้คนบนรถที่กำลังมองเขาด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับเสียงตะโกนของเขา “เอ้า! นี่ของคุณ!” เขาหยุดและยิ้มให้ ก่อนที่จะวิ่งกลับไปที่บ้าน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะกลับถึงบ้าน เขาก็ถูกยายที่รออยู่ที่บ้านดุอย่างหนัก



“ทำไมถึงวิ่งออกถนนไปแบบนั้น!” ยายดุเขาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างตกใจ “ถนนมันอันตราย รู้ไหมว่าถ้ามีรถมาเร็วๆ จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้!”



เขาไม่เข้าใจว่าทำไมยายถึงด่าเขาแบบนั้น ทั้งๆ ที่เขาก็แค่ต้องการทำสิ่งดีๆ เขาพยายามอธิบายให้ยายเข้าใจว่าเขาได้ดูถนนดีแล้ว และไม่ได้เสี่ยงอันตรายอะไร เขาแค่ต้องการช่วยคนอื่นเท่านั้น แต่ยายยังคงกังวลและห่วงใยเขาเสมอ



“คนอื่นอาจจะไม่คิดอย่างนั้นนะ ลูก ถ้าผู้ใหญ่รู้ว่าเราทำแบบนี้ เขาจะเป็นห่วงมากขึ้น และถ้าผิดพลาดขึ้นมา จะไม่ดี” ยายยังคงพูดต่อ



เขาเริ่มเข้าใจและรู้สึกถึงความห่วงใยจากยายที่ไม่ต้องการให้เขาเป็นอันตราย เขาจึงตัดสินใจว่าครั้งหน้าจะพิจารณาความเสี่ยงให้ดีก่อนที่จะทำอะไร และยังรู้สึกถึงความเป็นน้ำใจที่เขาอยากจะช่วยเหลือผู้อื่น



หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาได้เรียนรู้ถึงข้อดีและข้อเสียของการกระทำบางอย่างและรู้ว่าบางครั้งน้ำใจไม่ใช่แค่ทำเพื่อให้คนอื่นเห็น แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่นด้วย




ใหม่กว่า เก่ากว่า